您现在的位置是:时尚 >>正文
รมว.ทส.หารือทูตศรีลังกาฯ ประสานความร่วมมือดูแล"พลายประตูผา
时尚4人已围观
简介วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย ...
รมวทสหารือทูตศรีลังกาฯประสานความร่วมมือดูแลquotพลายประตูผา
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
Tags:
转载:欢迎各位朋友分享到网络,但转载请说明文章出处“蛇口蜂针网”。http://79623.telegramur.com/news/90b9899811.html
相关文章
《青年医学家》第二季|古迪:一位泌尿外科“机器手”的追光之路
时尚为提升居民健康素养水平,培养青年医学科普人才,由广东省卫生健康委员会主办,广东省卫生健康宣传教育中心、广东广播电视台影视频道承办的“青年医生科普人才培训营”于去年正式启动,《青年医学家》第一季的收视成 ...
【时尚】
阅读更多商界棋王暨擂台赛40周年 俞俐均以棋为媒点亮盛典
时尚作为兼具实力与颜值的职业棋手,她以双人联棋的参与形式,践行着对围棋文化传承与普及的不变初心。自担任商界棋王赛事推广大使以来,她始终致力于让这一跨界赛事成为连接专业棋界与商界精英的桥梁,从曼谷的巅峰对决 ...
【时尚】
阅读更多浦东航头首次举办龙舟赛,让居民们想起“小辰光的闹猛”
时尚讯记者 宋宁华)“我是从浦西动迁到这里的,没想到在这里也能看到龙舟赛,让我想到小辰光在苏州河看龙舟赛的闹猛。”家住航头镇鹤沙航城的居民表示。“航头杯”首届龙舟赛举办。主办方供图下同)浦东航头镇是上海大 ...
【时尚】
阅读更多